วันพุธที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2558

สุดยอดเคล็ดลับวางแผนเก็บเงินเที่ยวแบบชิวๆ

สุดยอดเคล็ดลับวางแผนเก็บเงินเที่ยวแบบชิวๆ

ขอขอบคุณเจ้าของผลงานจากเว็บนี้เลย www.thaiiinvest.com

หลายคนมีความฝันเกี่ยวกับการท่องเที่ยว ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลที่ว่าเมื่อก่อนตอนเด็กไม่ได้เที่ยว ทางบ้านจน การเดินทาง หรืออย่างไรก็ตามแต่ ทุกวันนี้การเดินทางสะดวกสบายไม่ว่าจะไปไหน ก็สามารถไปได้ แม้แต่ตั๋วเครื่องบินก็ยังราคาถูกจนมีเจ้าของสายรถทัวร์สายหนึ่งออกมาโวยวาย แต่บางคนบอกการเก็บเงินเดินทางแต่ละครั้งมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่จริงๆ มันก็ไม่ใช่เรื่องยากหากการเดินทางไม่ใช่ไปต่างประเทศ เที่ยวเมืองไทยนะเงินครึ่งหมื่นก็กินได้อย่างราชาแล้ว ว่าแต่คุณพร้อมแล้วหรือยังที่จะเก็บเงินเพื่อการท่องเที่ยว
สุดยอดเคล็ดลับวางแผนเก็บเงินเที่ยวแบบชิวๆ
สุดยอดเคล็ดลับวางแผนเก็บเงินเที่ยวแบบชิวๆ
1. ตั้งเป้าหมายการออม การเที่ยวแต่ละครั้งแม้นว่าจะใช้เงินไม่มากแต่คงไม่มีหรอกคนที่ไปเที่ยวโดยไม่วางแผนและใช้เงินต้นเดือน และกินอย่างอดอยากไปตลอด 20 กว่าวันมันลำบากไปนะผมว่า แค่อาทิตย์เดียวก็จะตายละ
เราต้องทราบก่อนว่าเราจะไปเที่ยวไหน และสถานที่นั้นควรใช้เงินเท่าไรในการเดินทาง อย่างไปเที่ยวทะเล ใช้เงิน 5000 รวมค่าเดินทาง ค่าโรงแรมและค่าใช้จ่ายส่วนตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
2. ตั้งเป้ากระยะเวลาในการเก็บเงิน หากคุณมีเงินเดือน 10,000 บาท ก็ให้ดูก่อนว่าค่าใช้จ่ายเท่าไร และจะออมได้เท่าไร หากได้มากกว่าเป้าหมายของเราก็จะเข้ามาใกล้เร็วขึ้น อย่างเก็บเดือนละ 1,000 ห้าเดือนคุณก็จะได้เที่ยว ปีละสองครั้ง
3. การหาข้อมูลเสริม มีที่พักที่ไหนลดราคา จองผ่านเว็บที่ไหนถูกกว่า แหล่งท่องเที่ยวที่ไหนที่ควรไป ช่วงไหนที่เป็นช่วง Low Season เพื่อให้การใช้เวลาและการใช้เงินของเรามีความคุ้มค่า
4. เลี่ยงการยืมเงินอนาคตมาเที่ยว เงินกู้ บัตรกดเงิน ผมบอกเลยไม่ควร วิธีการนี้จะทำให้คุณได้เงินไปท่องเที่ยวอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อคุณกลับมาแล้วจะพบกับค่าใช้จ่ายที่มากขึ้นกว่าเดิม และงบประมาณที่คุณตั้งไว้เพื่อการท่องเที่ยวอาจจะไม่พอและทำให้คุณต้องจ่ายแพงขึ้น
5. หารายได้จากการเที่ยว หลายๆ ท่านมองหารายได้จากแหล่งท่องเที่ยว โดยนำเอาสินค้าขึ้นชื่อกลับมาขายต่อหรือหาพรีออเดอร์ก่อนที่จะเดินทาง เรียกว่าได้เที่ยว แถมยังสร้างรายได้ในตัว
หากคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่อยากท่องเที่ยว แล้วทำตามที่ทางเว็บเราแนะนำได้ รับรองเลยว่า คุณจะท่องเที่ยวอย่างมีความสุข แถมไม่ต้องมาทุกข์กับค่าใช้จ่ายในเดือนถัดมา นอกจากจะไม่กระทบต่อเงินอนาคตแล้ว อีกทั้งยังช่วยเพิ่มนิสัยการออมเงินและการจัดการอีกด้วยนะครับ ขอให้ทุกคนเที่ยวอย่างมีความสุขครับผม

วันอาทิตย์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2558

คำนวณค่าสินสอดให้เหมาะกับยุค 2015

คำนวณค่าสินสอดให้เหมาะกับยุค 2015
เรื่อง โดย thaiiinvest.com
เรียบเรืองโดย I9 เว็ปเพื่อการออมเงิน

หากคุณคบกับใครแบบจริงๆ จังๆ สิ่งหนึ่งที่ควรคุยกันแบบเปิดอกคือเรื่องเงิน โดยเฉพาะเงินค่า "สินสอด" โดยตามธรรมดาประเพณี มันคือเงินทองที่เจ้าบ่าว นำมาเป็นเครื่องประกันในการขอเจ้าสาวตามที่ตกลงกันไว้ โดยเมื่อก่อนจะเป็นเงินที่ทางเจ้าบ่าวหามาเองแต่ฝ่ายเดียว แต่ด้วยสมัยนี้เรื่องของสินสอดเปลี่ยนไป เพราะสภาพสังคมในปัจจุบันที่ต้องแข่งกับตัวเองมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทำงานแลการสร้างฐานะให้ตัวเอง การหาเงินก้อนเพื่อนำมาเป็นสินสอดมีการเปลี่ยนแปลงไปมากยิ่งขึ้น


โดยปัจจุบันผมเห็นหลายๆ คู่ช่วยกันเก็บเงินเพื่อใช้เป็นค่าสินสอด เพื่อให้สมกับหน้าตา ไม่ให้อายชาวบ้าน โดยสังเกตจากเพื่อนๆ ที่ได้แต่งงานไปแล้ว หากคนที่มีฐานะปานกลาง ทำงานเป็นพนักงานประจำของบริษัทนั้น เมื่อจะแต่งงานก็มีการบริหารจัดงานเงินสินสอดที่เปลี่ยนไป เนื่องจากสภาพสังคมที่ต้องแข่งขันและการสร้างฐานะมีความยากลำบากยิ่งขึ้น โดยฝ่ายหญิงได้มีบทบาทในการเข้ามาช่วยในการจัดการสินสอดร่วมกับฝ่ายชายอย่าง
1. ตั้งเป้าหมายเงินค่าสินสอด และกำหนดเป้าหมายการแต่งงาน  โดยมีการกำหนดร่วมกันว่าจะแต่งเมื่อไร ความพร้อมก็ขึ้นอยู่กับความพร้อมทั้งสองฝ่าย เพื่อที่จะกำหนดแผนการออมเงินเพื่อใช้ในเรื่องสินสอดและเงินค่าจัดงานแต่งงาน
2. กำหนดแผนออมเงินและสร้างวินัยทางการเงิน โดยมีการหักเงินเข้าเป็นกองกลางโดยที่ทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิงว่าต้องเก็บเงินเท่าไร เอาเข้าบัญชีอย่างไร แนะนำเปิดเป็นบัญชีร่วม จะมีการสมทบเงินร่วมกันเป็นรายเดือน การสร้างวินัยดังกล่าวจะทำให้สามารถบรรลุถึงเป้าหมายในการออมเงินเพื่อการแต่งงานได้

หากคู่ไหนที่มีการพูดคุยกับได้ถึงเรื่องนี้และมีวินัยในการออม หลังแต่งงานแล้วได้ประสบความสำเร็จในการใช้ชีวิตร่วมกันเกือบทุกคู่ เนื่องจากการสร้างวินัยทางการเงินนั้นได้เริ่มมาก่อนการแต่งงาน ทำให้การวางแผนการเงินในเรื่องต่างๆ ถูกนำมาใช้ ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนการการท่องเที่ยว การมีบุตร การวางแผนการศึกษาให้บุตร ตลอดจนการวางแผนเกษียณอายุและส่งต่อความมั่งคั่งให้กับลูกหลาน การช่วยเหลือเกื้อกูลกันเช่นนี้นอกจากจะทำให้สามารถบรรลุเป้าหมายการสร้างความสุขทางการเงินของครอบครัวได้ ยังสามารถสร้างความสุขและความสัมพันธ์ระหว่างกันได้อีกด้วย

Power by  I9 เว็ปเพื่อการออมเงิน

วันศุกร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2558

อาชีพลูกจ้างกับอาชีพเจ้าของกิจการข้อดีข้อเสียที่ต่างกัน

อาชีพลูกจ้างกับอาชีพเจ้าของกิจการข้อดีข้อเสียที่ต่างกัน

หากคุณคิดว่าการเป็นลูกจ้างมันช่างแสนต่ำต้อย น่าน้อยใจ ไม่น่าภูมิใจในอาชีพ คุณจะเป็นเจ้าของกิจการที่ดีได้อย่างไร เพราะหากผันตัวไปเป็นเจ้าของกิจการทั้งที่ตอนเป็นลูกจ้างยังครึ่งๆ กลางๆ คุณไม่มีทางประสพความสำเร็จแน่นอน 



อาชีพลูกจ้อางกับเจ้าของกิจการมีความต่างกันอย่างมาก ทั้งเรื่องของทุน ความสามารถ ประสบการณ์ แม้นว่าลูกจ้างจะทำงานให้กับนายจ้างเพื่อแลกกับค่าจ้าง แต่ก็เป็นอาชีพที่มีเกียตร์เพราะนายจ้างต้องพอใจถึงจะจ้างต่อ แม้นว่าจะเป็นธุรกิจของผู้อื่นแต่หากคุณทำไม่เต็มที่ กิจการขาดทุนใครจะมีตังค์จ้างคุณละ หากคุณฝันที่จะมีกิจการร์คุณต้องเรียนรู้ที่จะแก้ปัญหา เพราะหากปัญหานั้นเกิดกับกิจการของคุณคุณจะได้นำมันมาแก้ปัญหาได้ หากเปรียบเทียบอาชีพลูกจ้างกับอาชีพเจ้าของกิจการข้อดีข้อเสียที่ต่างกัน

ข้อดีของการเป็นลูกจ้าง 
- เป็นอาชีพที่มั่นคง
- รายได้สามารถสะสมเป็นเงินหรือสินทรัพย์ได้
- มีเวลา ตื่นเช้าไปทำงานเย็นกลับบ้าน
- มีวันหยุดเทศกาลต่างๆ 

ข้อเสียของการเป็นลูกจ้าง 
- ทุกอย่างที่เราทำมา เราได้แค่เพียงความภูมิใจ 
- แม้นจะทุมเทแรงกายขนาดไหนหากนายจ้างไม่พอใจก็เสียเปล่า
- ต้องทำตัวให้ผู้บังคับบัญชาพอใจ

ข้อดีของการเป็นเจ้าของกิจการ
- เป็นความภูมิใจว่ามันคือกิจการของเราแม้นจะเป็นธุรกิจเล็กๆ
- ได้พึ่งความสามารถในการบริหารของตัวเองเป็นการพิสูจน์ความสามารถ
- มีโอกาสได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
- ส่งต่อกิจการนั้นได้

ข้อเสียของการเป็นเจ้าของกิจการ
- ลำบากทำงานหนัก อย่างน้อยก็ต้องกรับผิดชอบมากกว่าลูกน้อง
- ต้องมีเงินทุนสำรอง
- แม้นจะไม่มีคนคอยสั่ง แต่ลูกค้าคือนายของคุณ
- ต้องทำทุกอย่างเพื่อให้กิจการนั้นอยู่รอด

เมื่อท่านได้เห็นข้อได้เปรียบเสีย เปรียบในการเป็นเจ้าของธุรกิจหรือการเป็นลูกจ้างแล้ว ท่านคงพอนึกภาพออกบ้างแล้ว และได้ข้อคิดเห็นต่าง ๆ ของการเป็นเจ้าของธุรกิจและการเป็นลูกจ้าง แล้วความฝันของท่านละจะเดินต่อไหม สู้กันความลำบากนั้นหรือไม่

วันพฤหัสบดีที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2558

เครดิตบูโรกับการขอสินเชื่อ SME ในปัจจุบัน

หากท่านอยากจะทำธุรกิจ SME แต่ยังมีชื่อติดอยู่กับเครดิตบูโร เมื่อติดเครดิตบูโรแล้วมีผลต่อการขอสินเชื่อจริงไหม ตอบตรงนี้เลยครับว่าไม่จริง แต่ผู้ที่มายื่นขอกู้ต้องเคลียร์สิ่งที่ค้างชำระไปแล้วหรือปิดบัญชีไปแล้วเพราะปัจจุบันนั้นการให้สินเชื่อหลักเกณฑ์การให้กู้ที่แต่ละแห่งจะกำหนดว่าจะดูเฉพาะปัจจุบันหรือดูเรื่องในอดีตประกอบหรือไม่ถ้าจะดูจะดูยาวนานจากปัจจุบันย้อนไปนานแค่ไหน 6 เดือน 12 เดือน 18 เดือนหรือ24เดือน ฉะนั้นสิ่งที่สำคัญมากและเอสเอ็มอีไทยต้องเข้าใจนั่นก็คือคำว่า ติดเครดิตบูโร


 อะไรคือติดเครดิตบูโรคำตามความเข้าใจของท่าน
ผมเข้าใจว่าไอ้เจ้าเครดิตบูโร เป็นเหมือนประวัติทางการเงินหรือ สมุดพกทางการเงิน ของเรา เป็นเรื่องการก่อหนี้กับการชำระหนี้ของตัวเรามีข้อมูลว่าในอดีตครั้งหนึ่งมีหนี้จำนวนหนึ่งที่ยังไม่ได้ชำระไม่ได้อยู่ที่จำนวนหนี้ที่ค้างนั้นน้อยหรือมากแต่อยู่ที่ว่าสัญญาต้องเป็นสัญญาหรือไม่เป็นหนี้ต้องใช้หนี้หรือไม่ กลับกันคิดบ้างว่าถ้าเราเป็นเจ้าหนี้เราอยากได้เงินที่เราให้กู้ไปตามสิทธิที่เรามีหรือไม่ที่สำคัญที่สุดคือใครเป็นคนก่อให้เกิดปัญหาการมีประวัติค้างชำระหรือคิดดีดีใครเป็นที่ทำให้เกิดการติดเครดิต ตัวเราที่ไม่ชำระหนี้ของเราตามสัญญาหรือเครดิตบูโรถ้าเราไปชำระหนี้ครบชำระตรงเวลามันจะมีปัญหาหรือไม่มันเป็นเรื่องของข้ออ้างที่บอกต่อๆกันมาเป็นข้อความที่ยกมาเป็นประเด็นเท่านั้น

หากคิดด้วยใจ แบบใจเขาใจเรา จะพบว่าเหตุที่ไม่ได้เงินกู้ เพราะยังมีหนี้ค้างซึ่งบ่งบอกอะไรบางอย่างในตัวคนที่มาขอกู้ต้องไปแก้จุดนั้นไปเปลี่ยนกฎเกณฑ์ที่เป็นธรรมชาติที่เข้าใจได้ง่ายๆแต่ตัวเราไม่พยามยามทำความเข้าใจจึงเฉไฉไปว่าเป็นเพราะคนนั้นคนนี้ท้ายสุดบอกให้เลิกกติกา

คำถามคือแล้วยุติธรรมกับคนเป็นหนี้คนอื่นที่เขาจ่ายครบทุกบาททุกสตางค์หรือไม่ยุติธรรมกับคนฝากเงินหรือไม่
สมมติว่าให้ล้างข้อมูลที่ 50บาทลองคิดต่อนะครับว่าพอผ่อนมาจนเหลือ 50บาทแล้วท่านว่าจะมีใครไปจ่ายหนี้ก้อนนี้หรือไม่เป็นเงินเท่าไหร่ทั้งระบบแล้วธนาคารสถาบันการเงินปฏิเสธไม่ถอนให้ในจำนวนเดียวกันนี้ได้หรือไม่เวลาที่เจ้าของเงินฝากเขามาถอน
สรุปคำว่าติดเครดิตบูโรไม่มีความหมายคำที่ถูกคือมีประวัติค้างชำระหนี้ในอดีตซึ่งปัจจุบันได้จัดการไปแล้วหรือยังค้างชำระอยู่คนให้กู้ใหม่เขาเห็นข้อมูลเขาอาจไม่สบายใจเขาอยากมีหลักประกันว่าจะไม่เกิดขึ้นอีก เราต้องมองมุมคนที่เขาต้องเอาเงินฝากอีกคนมาให้อีก ,คนกู้เช่นกัน

วันจันทร์ที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2558

ลงทุนอย่างไรให้เพิ่มเงินได้แบบเยอะๆ

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาผมเห็นจั่วหัวเว็บน่าอ่านมากมายว่า "เงิน 500 ทำยังไงให้เป็นเงิน 20000 ภายใน 3 เดือน" แต่จากโจทย์ที่ให้ผมคิดว่าเป็นไปได้ยากหากจะนำเงิน 500 นั้นไปลงทุนจริงจริง ไม่ว่าจะยังไงมันก็ยังยากแถมเจ้าของกระทู้ก็ยังไม่ได้มาเฉลยว่าจะต้องทำอย่างไร แต่ก็ต้องขอบคุณกระทู้นี้ด้วย http://pantip.com/topic/33070765
แต่ก็มีหลายคนออกมาบอกว่า เออหากจะให้ได้จริงๆ มันก็มีหลายทาง อย่างหาของมาขาย เสี่ยงโชค แต่สำหรับผมนะการเสี่ยงโชคเป็นอะไรที่ได้กลับคืนมายากมากกกกกก เพราะประตูที่จะชนะมันน้อย แต่ก็ได้ไอเดียดีดี กับคำตอบที่สามารถทำให้มันเป็นจริงได้ ลองอ่านให้จบแล้วท่านจะได้ไอเดียดีดี


- ขายหมูปิ้ง จำนวน 70 ไม้ทุกวันก็ได้แล้ว ได้มากกว่า 20000 ด้วย และมีโอกาสได้มากถึง 50000 หากขยันภายใน 90 วันแต่นั่นหมายถึงคุณต้องขายหมดทุกวันนะครับ ถึงจะได้เงินขนาดนั้น แต่หากคิดตามหลักความจริง ถ้าเขามีอาชีพหลักอยู่แล้วละ มันก็ยากที่จะทำอย่างนั้นเพราะข้อจำกัดเรื่องเวลา ในการเข้างาน การพักผ่อน และความเมื่อยล้าจากการทำงาน 
แต่หาก เขาไม่มีอาชีพรายได้ที่ได้มาก็ต้องนำไปหักค่าแรงนะครับ ไม่งั้นมันก็ไม่คุ้ม จากกระทู้บอกว่า 
เงิน 500 บาท   
ซื้อหมูได้ 2 กิโล 280 สามรถทำได้ 140 ไม้ ขายคิดเป็นเงิน 700-280 บาท = กำไร 420 บาท/วัน
ค่าเครื่องปรุง ถุง ไม้เสียบ 70 บาท ค่าถ่านไม้ 30
ค่าข้าวเหนียว กิโลละ 30 บาท 4 โล = 120 บาท ได้ 56 ถุง ขายถุงละ 5 บาท ได้เงิน 280 -120 = กำไร 160 บาท/วัน
ระยะเวลา 90 วัน คุณจะขายได้  max = (420+160) x 90 วัน = 52,200 บาท 
+- ค่า ERR ผันแปร  ที่ 10 %
แต่กรณีนี้ยังไม่หักค่าแรงหากคิดจริงๆ ค่าแรงขั้นต่ำ 300 x 90 = 27000 บาท ก็ยังได้ตามโจทย์ 
สรุปว่าท่านจะหาทำเลที่จะทำให้ขายหมดได้ทุกวันหรือไม่ เพราะในราคานี้ไม่คิดค่าเช่าที่ 

- ขายสินค้าออนไลน์ โดยนำเงินซื้อสินค้า และต่อทุนโดยการนำกำไรไปลงทุน แต่ใครจะรู้ละครับว่าการขายของบนอินเตอร์เน็ตที่เป็นแฟนเพจมันยากมาก หากคุณไม่มีฐานลูกอยู่แล้ว หรือเพจที่พร้อมจะทำหน้าที่ขายอยู่แล้ว เพราะเงินเพียง 500 มันลงโฆษณายังไม่ได้เลย แล้วจะเหลือเงินไปซื้อสินค้ามาขายไหม แต่หากจะซื้อเป็นกิ๊ฟช๊อปมาขายในที่ทำงาน มันก็พอได้นะ แต่อย่าให้ใครรู้ราคารับมา และการตั้งราคา ต้องมากกว่า 50% เพราะหากรับมา 10 ชิ้น ยังไงมันก็ต้องเหลือ 2-3 ชิ้น และ 2-3 ชิ้นนี้แหละเป็นปัญหาเพราะจะดึงเอากำไรไปจนหมด หากคิดราคาเหมือนกับการขายอาหารหรือของกิน

- หาจับงานเฉพาะ อย่างแปลงาน งานซ่อม ตุ๊กตา พระเครื่อง ของสะสมต่างๆ หากเป็นของพวกนี้มันจะได้ราคางาม ฟังเหมือนง่ายแต่มันยากนะครับการที่จะจับถูกชิ้นสำหรับคนไม่คุ้นตลาด เพราะของสะสมพวกนี้ต้องใช้ทั้งความจำ สังเกต ประสบการณ์ กว่าจะกลายมาเป็นความรู้ที่สั่งสมโดยไม่ต้องมองตำรา 

แล้วคุณละ อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้คุณได้อะไรดีดีแล้วหรือยัง เงินห้าร้อยมันไม่ใช่เรื่องยากที่จะทำให้มันงอกเงย แต่อยู่ที่ตลาด ความถนัด และทำเล หรือหัวคิดทางการค้า 
แต่ผมว่าผู้ใหญ่ที่ให้โจทย์มาก็เพียงจะสอนว่า ให้ลองลงมือทำ เพราะเงินห้าร้อย หมดก็ไม่ได้เสียดายแต่หากกล้าที่จะลงทุนด้วยเงินเพียงห้าร้อย สิ่งที่จะได้รับมันคือความคิด ประสบการณ์ที่หากซื้อไม่ได้ด้วยเงิน 500 บาท  แต่เป็นประสบการณ์ที่คุณจะไม่มีวันลืม ไม่ว่าจะผ่าไปอีกกี่ปีกี่เดือน

Power by Yoyo เว็บในเครือน้องตะวัน

วันศุกร์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2558

เงินทุนไม่ใช่ปัจจัยหลักของการลงทุนให้ประสบความสำเร็จ

หลายคนมองหาโอกาสทางการลงทุน ฝันอยากจะเป็นเจ้าของธุรกิจ หรือมีร้านอะไรซักอย่างเป็นของตัวเอง แต่สิ่งที่ขาดสิ่งแรกที่โพล่ขึ้นมาในหัวคือเงินทุน แต่มันจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ ไหม

ผมเห็นหลายธุรกิจที่เกิดขึ้น อยู่ได้สักพักแล้วก็หายไป แม้ว่าธุรกิจหรือสิ่งที่ทำไม่ใช่สิ่งใหม่ เป็นธุรกิจ หรือการค้าที่มีคนทำไว้แล้ว เราแค่ลอกการบ้านแล้วบริหารมันให้ดีกว่า มองดูเหมือนง่าย จริงๆ เงินทุนมันไม่ใช่สิ่งแรกที่ขาด หากคุณมีงานประจำแล้วอยากมีร้านหรือธุรกิจเล็กๆ เป็นของตัวเองคุณควรมอง ปัจจัยต่อไปนี้เพื่อปิดทางของความล้มเหลว แล้วกคุณจะคงอยู่กับธุรกิจของคุณต่อไปได้




- ประสบการณ์ อันนี้สำคัญมากสำหรับการดำเนินธุรกิจหรือการมีร้านเป็นของตัวเอง ประสบการณการทำงานบางครั้งก็ได้มาจากการเป็นเจ้าของกิจการเอง บางคนได้มาจากการมีหน้าที่มากจึงมีประสบการณ์ส่วนนี้ บางท่านบางคนได้จากการดู ประสบการณ์มันสอนกันได้

- การวิเคราะห์ตลาด บางคนเอาแค่ว่าฉันอยากขายอันนี้ แล้วฉันก็จะขาย ไม่สนใจวาสตลาดเป็นไงคนสนใจมากน้อยขนาดไหน จะมีใครซื้อหรือเปล่า อย่างมีคนเอาเป็นว่าเพื่อนผม ชอบผ้าพันคน ทำเป็น ก็อยากทำขาย แต่เมื่อทำไปขายแล้วสู้ที่วางขายตามตลาดไม่ได้ เพราะราคารวมค่าแรงมากกว่า ทำให้ต้องขายราคาแพง แถมไม่มีลายให้เลือกมากนัก จึงขายยาก
ใครไม่รู้กล่าวไว้ว่า "สิ่งที่เราชอบให้ทำเป็นงานอดิเรก สิ่งที่ทุกคนชอบให้ทำเป็นธุรกิจ แล้วธุรกิจของท่านจะรุ่งเอง 

- ทำเล การทำอะไรก็ตามต้องดูทำเล ขนาดรถขายน้ำยังไปจอดหน้าโรงเรียนรอเด็กเลิก เพราะอะไร เขาเข้าใจว่าคนมากก็จะขายได้มาก และอีกอย่างเด็กสมัยนี้ในโรงเรียนห้ามขายน้ำอัดลม นักเรียนก็ชอบ เลิกมาก็คนละป๋อง คนละขวด สบายพ่อค้าเลย แต่หากร้านย้ายไม่ได้เราก็ต้องดูว่าจุดนั้นคนสัญจรผ่านมากแค่ไหน กี่คน กลุ่มลูกค้าเราเป็นใครมั่ง  

เห็นไหมว่ามันมีปัจจัยที่สำคัญกว่าเงินลงทุนอีกมากมาย แต่ผมเชื่อนะว่าหากเงินลงทุนเป็นของคุณเอง ยิ่งเงินนั้นเป็นเงินเก็บนะมันจะ

ช่วยให้คุณมีแรงใจในการบริหารธุกิจให้รุ่งมากกว่าคนอื่น ที่ผมจั๋วหัวข้อแบบนั้นเพราะว่า ธุรกิจหากจะทำจริงๆ มีหลายธนาคารที่จะช่วยคุณได้ในเรื่องของแหล่งเงินทุนหากใจรักก็หาประสบการณ์ไว้ซักวันมันต้องเป็นวันของคุณ

Power by I9 เว็บในเครือน้องตะวัน