วันอังคารที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2558

มุมมองของการทำงานดึก ขยัน จริงหรือ

ผมว่าหลายคนชินตา หรือบางท่านเป็นเรื่องปกติที่จะทำงานอยู่ออฟฟิศจนดึกดื่น ในขณะที่ทุกคนกลับบ้านไปกันหมดแล้ว แต่เขายังตั้งหน้าตั้งตาทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์อย่างแข็งขัน พร้อมกับเสียงเรียกประโยคคุ้นหูที่ว่า "ขยันจังเลยนะ", "ฟิตจังนะแก", "โอ้โห พนักงานดีเด่น"

มุมมองของการทำงานดึก ขยัน จริงหรือ

ทำงานดึก = ขยัน

และตัวผมเองเคยมีความเชื่อนี้มาตั้งแต่สมัยเรียนจบ และก็ฝังหัวมาตลอดชีวิตการทำงาน

บางครั้งเกิดความคุ้นชินว่าตั้งใจที่จะทำงานอยู่ดึก เพื่อให้รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนขยัน หรือแม้แต่บางครั้งก็เพื่อให้เจ้านายรู้สึกว่าเราเต็มที่กับงาน ประเมินผลออกมาจะได้คะแนนดีๆ เงินเดือนจะได้ขึ้นเยอะๆ

แต่เมื่อทำงานมาซักระยะนึงจนเริ่มเป็นหัวหน้าทีม ก็ได้พบกับคนที่เป็นระดับหัวหน้าหลายคนเหมือนกัน ที่มีความเชื่อว่า ถ้าลูกน้องคนไหนทำงานแล้วกลับช้า กลับดึก จะให้คะแนนความขยันเกือบเต็มไปเลย

ตรงข้ามกับบางพวกที่พอถึงเวลา 5 โมงเย็นปุ๊บ เก็บกระเป๋าออกจากออฟฟิศเลย คนกลุ่มนี้บางทีไม่ใช่แค่เพื่อนร่วมงาน แต่รวมถึงหัวหน้าก็มองว่าเป็นคน "ขี้เกียจ" หรือ "ทำงานแบบคุ้มเวลา" ให้ทำถึงกี่โมงก็ทำแค่นั้น ไม่มีทำงานเพิ่ม เป็นคน "ไม่ขยัน"

แต่เชื่อไหมว่าคุณค่าความขยันของฝรั่ง ไม่เหมือนคนไทย

และแล้วความเชื่อนี้ก็ต้องมาสั่นคลอน เมื่อครั้งหนึ่งที่ผมได้มีโอกาสไปทำงานที่อังกฤษ แม้จะเป็นช่วงเวลา 40 กว่าวัน แต่ก็ได้พบเห็นวิธีการทำงาน การใช้ชีวิตที่แตกต่างจากการทำงานแบบไทยๆ อย่างสิ้นเชิง

วันแรกของการได้ไปทำงานที่อังกฤษ ผมก็ยังคงพกพาการทำงานแบบที่คุ้นเคยจากเมืองไทย ทำงานชิวๆ ทั้งวัน พอถึงช่วงเย็นก็ลงไปหาอะไรกินเล่น กะจะขึ้นมาทำงานจนถึงสองสามทุ่มแล้วค่อยกลับที่พัก

ปรากฏว่าช่วงทุ่มกว่าตอนที่เดินกลับขึ้นมาถึงออฟฟิศ กลับพบว่าไม่มีใครอยู่เลย !! ผมเดินวนไปวนมา ไม่เจอนายขยันที่ทำงานจนดึกดื่น หน้าจอมีไฟส่องออกมาเลยซักคน

ต่อมาซักพักก็มีรปภ.เดินเข้ามาถามว่า "ทำไมคุณถึงยังไม่กลับบ้าน ?"

ผมก็ตอบกลับไปว่ายังทำงานไม่เสร็จเดี๋ยวจะทำงานต่อจนถึงทุ่มสองทุ่ม ซึ่งทำให้คุณพี่รปภ.ถึงกับตกใจ รีบบอกเลยว่าถ้าคุณจะอยู่ดึก ต้องเซ็นเอกสารเพิ่มนะ ต้องทำอะไรอีกหลายอย่างวุ่นวายมาก

ด้วยความมึนงง และต้องเซ็นเอกสารเพิ่ม ผมเลยเก็บของแล้วเดินออกมา กลับที่พักไปนั่งทำงานที่ห้องต่อแทน

เช้าวันต่อมาเจ้านายที่เป็นฝรั่ง ชื่อแนชเข้ามาคุยกับผม "เอ็ม ผมได้ยินว่าเมื่อวานนี้คุณอยู่ที่ออฟฟิศช่วงดึก ?"
"อ๋อ ใช่ครับผมว่าจะทำงานต่อ มีหลายอย่างที่ยังไม่เสร็จดี" ผมตอบ”

"ผมไม่เข้าใจ ทำไมคุณไม่ทำงานให้เสร็จในเวลา ทำไมต้องมาทำจนดึก หรือผมให้งานคุณหนักเกินไปเหรอ ?"
"........"
"ผมสอนคุณไปไม่ละเอียดหรือ มีตรงไหนที่ยังสงสัย หรือว่าทำไมได้อีกไหม?" แนชถามด้วยความห่วงใย

เป็นโอกาสผมเลยเล่าให้แนชฟังว่า ปกติที่เมืองไทยเราจะทำงานกันเลิกทุ่มสองทุ่ม ส่วนคนที่ขยันหน่อยก็อาจจะอยู่สามสี่ทุ่มไปเลย ซึ่งแนชได้ฟังแล้วก็ถึงกับส่ายหัว

แต่กลับได้รับคำตอบมาว่า "ในฐานะบริษัทผมดีใจที่เห็นคุณทำงานหนัก ตั้งใจทำงานเพื่อบริษัท แต่คุณต้องรู้จักการ Balance เวลาในชีวิต คุณจะทำงานตลอดเวลาไม่ได้ ต้องมีเวลาให้ครอบครัวหรือทำอย่างอื่นด้วย"

แถมแนชยังบอกต่ออีกว่า "การใช้เวลาทำงานนานๆ มันไม่ได้หมายความว่าผลงานคุณจะดีกว่าคนอื่นหรอกนะ ผมไม่เข้าใจว่าที่เมืองไทยเค้าไม่ได้ประเมินความสามารถจากผลงานเหรอ ?"

โดนเข้าเป็นชุดนี้ผมถึงกับจุก ซึ่งอันที่จริงแล้ว มันอาจจะเป็นความเข้าใจผิดของผมเอง รวมถึงความเชื่อผิดๆ ที่มีมาตลอด จนเกิดเป็นความเคยชินก็ได้

ออฟฟิศที่บ้านเขาหลังเลิกงาน มีการไปซ้อมดนตรีกันด้วย ใช้เวลาคุ้มกันจริงๆ  ซึ่งสิ่งที่ผมได้เรียนรู้ตลอดช่วงที่ทำงานที่อังกฤษคือ ผมว่าคนอังกฤษมีสมาธิในการทำงานสูงมาก ผมแทบไม่เห็นใครที่เล่น Facebook, ฟัง YouTube หรือนั่งเม๊ากันระหว่างทำงานเลย เวลาทำงานคือ 8.30 และเลิกงานที่ 17.00 ซึ่งทุกคนมากันตรงเวลา และก็เลิกตรงเวลา หลัง 17.00 ก็เริ่มเห็นคนทยอยเก็บกระเป๋าออกจากออฟฟิศ พอถึงช่วง 17.30 แทบไม่มีใครอยู่ออฟฟิศแล้ว พอหลัง 18.00 คือไม่มีใครที่ออฟฟิศเลยจริงๆ แต่ผลงานของทุกคนคือออกมาดีเยี่ยม ทุกอย่างทำได้เสร็จสิ้นตามเวลาที่คุยกันไว้ ไม่มีเลท คุณภาพออกมาดี

เวลาประชุม
ทุกคนจะมาตรงเวลามาก เริ่มประชุม 14.00 หมายถึงเริ่มประชุมจริงๆ ไม่ใช่ 14.00 ยังเพิ่งลุกออกจากที่นั่ง และก็เลิกประชุมตรงเวลาเป๊ะ ประชุม 1 ชั่วโมง ทุกคนก็จะพยายามให้จบในเวลาจริงๆ ไม่มีมาต่ออีก 15 นาที หรือโยกไปประชุมรอบหน้า

บรรยากาศซ้อมหนีไฟที่อังกฤษ
การซ้อมใช้เวลาไม่นาน พนักงานแต่ละคนบริหารเวลาของตัวเองดีมาก มีครั้งหนึ่งที่มีการซ้อมหนีไฟ ซึ่งพอถึงเวลากริ่งดัง ทุกคนก็เดินลงทางหนีไฟ ไปจุดที่ซักซ้อมกันไว้ พอกริ่งหยุดดังปุ๊บ ก็กลับขึ้นมานั่งทำงานต่อทันที ไม่มีไปเดินชิว ซื้อ Starbucks กิน
แนชเล่าให้ผมฟังว่า คนอังกฤษแต่ละคนเวลามาทำงาน ก็จะมีการวางแผนไว้ล่วงหน้าว่าเลิกงานแล้วจะทำอะไร เช่นทุกวันพุธจะไปออกกำลังกาย ทุกวันศุกร์จะไป Hangout กับเพื่อนๆ หรือไปเยี่ยมคนในครอบครัว "เวลาหลังเลิกงาน" เป็นเวลาที่มีความหมาย ถ้าใช้ให้ดีก็จะมีประโยชน์กับตัวเอง

ผมเริ่มเปลี่ยนวิธีการทำงานตามแบบของคนที่นี่ดูบ้าง ใช้เวลาทำงานจริงจัง พยายามทำทุกอย่างให้เสร็จในเวลาทำงาน ไม่คิดว่าเดี๋ยวจะเอาไว้ทำรอบดึกหรือเอากลับไปทำที่บ้าน ซึ่งช่วงแรกก็ไม่ค่อยชินนะ แต่พอนานไปก็เริ่มทำงานได้เสร็จตามเวลามากขึ้น ทำให้เราได้รู้ว่า เฮ้ย ถ้าเอาจริงๆ เราก็ทำทุกอย่างเสร็จได้ทันนี่หว่า แล้วจะกลับดึกไปทำไมฟะ ผมเริ่มมีเวลาหลังเลิกงานมากขึ้น ได้เอาเวลาไปทำอย่างอื่นมากขึ้น ออกกำลังกาย พักผ่อน อ่านหนังสือ ไม่ต้องคิดแต่เรื่องงานตลอดเวลา

เมื่อกลับมาที่เมืองไทย ผมพยายามใช้เวลาทำงานเต็มที่ เลิกตรงเวลา จนมีเวลามากพอที่จะเรียนต่อป.โทได้ ไม่มีปัญหาเรื่องการทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย ซึ่งก็เป็นเรื่องที่โชคดีที่หัวหน้าและบริษัทของเมืองไทย ก็มีระบบการประเมินที่ดี ดูผลงานเป็นหลัก และก็ได้การประเมินผลงานออกมาดีทุกปี

มีคำบอกเล่าของ HR ท่านหนึ่งเคยบอกว่า 70% ของคนที่ลาออกจากบริษัท เกิดจาก "หัวหน้า" และเหตุผลใหญ่คือการประเมินผลงานลูกน้องในแต่ละปี

หากตอนนี้คุณกำลังเป็นลูกน้องในบริษัทอยู่ ลองตั้งใจทำงาน ใช้เวลาให้คุ้มค่าตรงเวลา และทำทุกอย่างให้ได้ตามที่ตกลงกันไว้ ผมเชื่อว่าคุณจะเก็บกระเป๋าลุกตอนเลิกงานทันที ก็ไม่น่ามีใครว่าอะไรคุณได้

ส่วนใครที่ได้อ่านทำหน้าที่บทบาทเป็นเจ้านายหรือหัวหน้า ถ้าคุณเริ่มมองคุณภาพของลูกน้องจากผลงานและคุณเป็นหลัก ลดเรื่องอารมณ์ ความสนิท หรือเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับงานออกไปได้ ในการประเมินความสามารถของลูกน้อง คุณก็น่าจะทำได้ดี และทุกฝ่ายก็จะ Happy ร่วมงานกันได้อย่างมีความสุขครับ

วันอังคารที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2558

จับตาหุ้นโตต่อเนื่องกับ HMPRO

จับตาหุ้นโตต่อเนื่องกับ HMPRO
ทำมาหากิน ทำมาหาเก็บ วันนี้ของเสนอหุ้นเติบโตต่อเนื่องที่ผมเองคิดว่าหลายคนรู้จัก ประกอบกับงบไตมาสที่ 3 ออกแล้วเลยเอาเรื่องนี้มาเขียนเพราะพึ่งได้อ่านงบ ไตรมาสนี้ ที่ที่ออกมาซักพักละ เรียกว่าอัพเดทข้อมูลค่องข้างค่อยข้างช้า แต่ไม่ช่าหรับหรับมาถือระยะยาวแน่นอน กับ HMPRO หรือบริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน)



ทำไมผมจึงเสนอตัวนี้ ก็เพราะหุ้นตัวนี้เรียกว่าผมประกอบการดีขึ้นต่อเนื่องมา 5 ปีแล้ว อย่างนี้จะไม่เอามาเขียนเพื่อให้ทุกคนทราบก็จะยังไงอยู่เด๊ยวว่าเพจเราไม่แบ่งปัน
ราคาวันนี้อยู่ที่ 7.10 บาท คงตัวมาตั้งแต่เช้า แต่มีการซื้อขายกันเรื่อยเรื่อย อ้อมีสลับขึ้นลงบ้างแต่ก็กับมาคงตัวที่เส้นเปิด

หุ้นตัวนี้พึ่งขึ้น XD เมื่อเดือนที่แล้วเหมือนผมจะเคยเขียนไว้ด้วย ไหมลองหาดูแล้วกันครับ แต่วันนี้ยังไงก็ต้องวิเคราะกันใหม่เพราะงบใหม่ออกแล้ว
ตัวเลขทางการเงินที่สำคัญย้อยหลัง 5 ปี



ตัวเลขทางการเงินอีกเว็ป




กราฟแสดงการเติบโตของหุ้นตัวนี้



ตัวเลขทางการเงินของไตรมาสนี้




เมื่อเห็นตัวเลขแล้วพวกท่านคิดว่ายังไง แต่อย่างไรเสียผมคิดว่ากำไรน้อยไปหน่อยเมื่อเทียบกับรายได้ แต่ตัวเลขพวกนี้ ผมว่าหลายคนก็คงเริ่มอยากหาต้อมูลเพิ่มเติมกันละผมว่า
Power By I9

วันพฤหัสบดีที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2558

หวย ความหวังหรือสิ้นหวัง

ของซักเรื่องจากการสังเกตุของผมเองรู้สึกว่าตอนนี้มันคุกคราม ผมมากขึ้นทุกที ไม่ว่าจะเป็นไลน์ ข้อความเฟสบุค หน้าฟีด ไลน์กลุ่ม หน้าฟีด ตามหรอกหลอนได้เกือบทุกที่ แต่ใครรู้มั่งว่าข้อความต้นฉบับมันมาจากไหน

หวย ความหวังหรือสิ้นหวัง

ข้อความจะประมาณว่า "วันเกิดหลวงพ่อ นั้นนี่ ให้ 3 งวด งวดนี้งวดแรก" "หวยเทพทันใจ" "หวยหลวงพ่อปากแดง" ทุกอย่างมันคืออะไร
และล่าสุดคือเห็นมีตั้งโต๊ะตามตลาดนัดด้วยว่า "เอกสารลับจากกองสลาก" อันนี้คุณๆ จะเชื่อได้มากน้อยแค่ไหน

คิดในแง่ของเจ้ามือ
เมื่อคิดตามหลักการตลาด น่าจะถูกปล่อยมาจากใครซักที่อาจจะเป็นเจ้ามือเอง ก็เป็นได้ เพราะหวยสามารถคิดได้สองประเด็นคือ
1. ล๊อคเลขได้ หากผมเป็นเจ้ามีผมนี่จะยุให้คนซื้อเยอะๆ เพื่อผมจะได้มีรายได้ที่มากขึ้น ใครไม่อยากมีรายได้มากละ ในเมื่อเรากำหนดได้อยู่ละว่าเราจะให้ออกตัวไหน
2. ล๊อคเลยไม่ได้ อันนี้ก็ไม่ถือว่าเสี่ยงหากเจ้ามือกำหนดให้รับได้ไม่เกินเจ้าละ 2,000 บาทต้อตัวมากกว่านี้ไม่ขาด ก็จะมีรายได้เฉลี่ย คือ 2,000*100 = 200,000 บาท แต่เจ้ามือจ่ายเมื่อถูกคือ 2,000*70 = 140,000 บาท ยังไงกำไรก็ยังได้ 60,000 เห็นไหมว่ายังไงเจ้ามือก็ได้กำไร อันนี้เป็นการคิดแบบการตลาด ในแบบของเจ้ามือ แล้วถ้าคิดในมุมมองของลูกค้าละ

คิดในแง่ของลูกค้า

ปกติ คนจะซื้อแบบสุ่ม และก็ตามคำบอกเล่าของหวยดัง ปกติก็ซื้อไม่เกิน 40 ตัว คือไซื้อประมาณ 10 ตัวแล้วกลับ บนล่าง กลับไปกลับมาก็ประมาณ 40 ตัวพอดี แล้วโอกาศถูกละมากน้อยขนาดไหน
คิดง่ายๆ 1 : 100 ต่อ 1 โอกาสที่จะถูกหวยคือ 20:100 บน และล่างอีก 20:100 เป็นไงครับ น้อยไปไหม

ถ้า หากเอาเงินส่วนนี้ไปทำอย่างอื่น นะครับมีโอกาสที่จะทำกำไรมากกว่าอีก ความเสี่ยง 1: 100 โอกาสได้เงินจากเจ้ามือ 1:70 แล้วคุณคิดว่ามันยังมีโอกาศรวยจากหวยอีกไหม หวยไม่เคยทำให้ใครรวยนอกจากเจ้ามือ

Power By I9 หวย ความหวังหรือสิ้นหวัง

วันจันทร์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2558

สูตรกาแฟเจ สำหรับเทศการกินเจปีนี้

พรุ่งนี้แล้วสิน่ะจะถึงเทศกาลกินเจ สำหรับคนที่เป็นเจ้าของกิจการรับมือกับการกินเจอย่างไรเพื่อไม่ให้ยอดขายตก ฮวบๆเกินครึ่ง ในเทศกาลกินเจนี้ จากประสบการของหลายๆ ร้านเทศกาลกินเจนี่แหละครับที่ทำให้ยอดขายลดลง ทางออกที่จะพอไปรอดได้คือ ทำสูตรกาแฟเจ ทำให้ยอดขายกระเตี้องขึ้นมานิดหน่อยก็ยังดี
เมื่อทำกาแฟ สูตรเจแล้ว ก็อย่าลืมทำป้าย เพราะลูกค่าส่วนมาก กาแฟสูตรเจลูกค้ามักมองข้ามเพราะไม่ค่อยมีใครขาย สูตรนี้เป็นสูตรปรุงกาแฟสำหรับเทศการกินเจโดยเฉพาะ ขนาดแก้ว 16 oz และเป็นเมนูเย็น


สูตรกาแฟเจ สำหรับเทศการกินเจปีนี้

เมนูแรกเลยกับการแฟดำ สูตรกาแฟเจอเมริกาโน่เย็น
- เอสเพรซโซ่ 2 Shot ถ้าเลือกเมล็ดกาแฟได้ ให้ใช้เมล็ดกาแฟคั่วเข้มๆ
- น้ำเย็น 4 ออนซ์
- น้ำเชื่อม 3 ปั้ม หรือ 20 ml
- น้ำแข็งก้อนกลมเล็กเต็มแก้ว

สูตรที่ 2 สูตรกาแฟเจ อมริกาโน่เย็น Sugar cane

- เอสเพรซโซ่ 2 Shot ถ้าเลือกเมล็ดกาแฟได้ ให้ใช้เมล็ดกาแฟคั่วเข้มๆ เช่นเดิม
- น้ำเย็น 3 ออนซ์
- น้ำอ้อยป่น 2 ช้อนพูนๆ ละลายกับน้ำร้อน 1 oz
- น้ำแข็งก้อนกลมเล็กเต็มแก้ว

สูตรที่ 3 สูตรกาแฟเจใส่นม ซอยลาเต้ Soy Latte
- เอสเพรซโซ่ 2 Shot ถ้าเลือกเมล็ดกาแฟได้ ให้ใช้เมล็ดกาแฟคั่วเข้มๆ เช่นเดิม
- นมถั่วเหลืองเจ 4 ออนซ์ นมถั่วเหลืองไม่ผสมนมรสจืด
- น้ำเชื่อม 3 ปั้ม หรือ 20 ml
- น้ำแข็งก้อนกลมเล็กเต็มแก้ว

สูตรที่ 4 สูตรกาแฟเจ ใส่นมงาดำลาเต้
- เอสเพรซโซ่ 2 Shot ถ้าเลือกเมล็ดกาแฟได้ ให้ใช้เมล็ดกาแฟคั่วเข้มๆ เดินเคย
- นมถั่วเหลืองเจ 4 ออนซ์ เลือกใช้นมถั่วเหลืองไม่ผสมนมรสงาดำ
- น้ำเชื่อม 3 ปั้ม หรือ 20 ml
- น้ำแข็งก้อนกลมเล็กเต็มแก้ว

หลายคนที่ได้อ่านสูตรก็คงจะถามว่ามันจะอร่อยหรอ จริงๆ เแล้ว "ไม่อร่อยเลย" เพราะบ้านเราคุ้นชินกับความหวานมันของนม นมข้นหวาน แต่การที่จะทำกาแฟสูตรเจ ก็ควรยึดความถูกต้องของคำว่า “เจ” ให้ชัดเจนเสียก่อน คนกินกาแฟเจต้องการผลบุญจากการกินเจ ฉะนั้น คนขายกาแฟก็ควรจะทำกาแฟเจให้ถูกต้องตามหลักสากลด้วย
* แต่ละวังอย่าให้ไปปนกันลูกค้าธรรมดาเข้าละ จะเสียเจตนาการกินเจของเขา ทำลายบุญที่เขาสร้าง ความสบายใจมันจะไม่ได้บุญกันทั้งสองฝ่าย  

วันอาทิตย์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2558

เปิดตลาดเหนือเส้นกว่า 10 จุด

เป็นสัญญาณที่ดีนะครับสำหรับวันนี้กับตลาดหุ้นที่เปิดเหนือเส้นขึ้นมากว่า 10 จุด โดยปรับตัวในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นโลก ถือเป็นเรื่องดีๆ โบรกมองแนวโน้มการเร่งทำยอดของแต่ล่ะบริษัท แต่อย่างไรก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี


แต่อีกในหนึ่งก็มีคคนมองว่า การดำเนินการของรัฐบาลมีความน่าเชื่อถือซึ่งจะเป็นเรื่องดีจริงไหมอันนี้ต้องติดตามกับยาวๆ ไม่ขอวิจารย์กลับเหมือนนักเขียนการตูนไทยรัฐ เพราะทุกวันนี้การเสนอข้อมูลที่เป็นจริงก็รับไม่ได้ดังนี้ไม่พูดดีกว่า

มาดูกันดีกว่าต่าตัวไหนบ้างที่ขึ้นและขึ้นกันมามากน้อยขนาดไหน แอร้ยยย! ไม่ได้เขียนเรื่องหุ้นนานรู้สึกว่าเขียนไม่ค่อยออกเลย หากภาษาติดขัดยังไง ก็ทนอ่านกันนะครับ

ราคาเพิ่มขึ้นจากมากไปหาน้อย
- U
- SSI
- GSTEL
- GLOW
- COL
- JWD
- TOP
- TIC
- AMARIN

ยังไงก็ลองดู และรอดูกันยาวๆ นะครับ

Power by I9 วิธีเก็บเงิน การออมเงิน